ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ

A- A A+

หมวด 1 สัญญารถร่วม

30-12-2557

(9)

 

ระเบียบ และคู่มือรถร่วมบริษัทขนส่ง จำกัด
พุทธศักราช 2547
หมวด 1 สัญญารถร่วม

 

     ข้อ 6. รถคันใด และหรือ เจ้าของรถรายใดจะทำสัญญารถร่วมกับบริษัท ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ หรือผู้ที่คณะกรรมการมอบหมาย

     ข้อ 7. เจ้าของรถร่วมรายใดได้รับสิทธิเพิ่มรถหรือปรับปรุง (เปลี่ยนมาตรฐานรถ) ให้นำรถเข้าทำสัญญาภายใน 30 วัน และให้นำรถเข้าวิ่งในเส้นทางให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากบริษัท ให้ชำระค่าบำรุงให้แล้ว เสร็จภายในกำหนดระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากบริษัท การชำระค่าบำรุง หากชำระเกินกำหนดระยะเวลา หรือผิดนัดผ่อนชำระค่าบำรุง ผู้ได้สิทธิต้องเสียค่าปรับร้อยละ 20 ของค่าบำรุงที่ค้างชำระเจ้าของรถรายใดไม่ดำเนินการตาม ความในวรรค 1 และมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้บริษัททราบเป็นหนังสือภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ถือว่ารถคันนั้น และหรือเจ้าของรถร่วมรายนั้นสละสิทธิในการเพิ่มรถหรือปรับปรุง (เปลี่ยนมาตรฐานรถ) แล้วแต่กรณี

     ข้อ 8. เจ้าของรถร่วมรายใด ไม่สามารถดำเนินการนำรถเข้าวิ่งในเส้นทางตามกำหนดระยะเวลา 150 วัน ให้แจ้งข้อขัดข้องให้บริษัท ทราบภายในกำหนดเวลาดังกล่าวและหากข้อขัดข้องนั้นสามารถพิสูจน์ หรือเชื่อได้ว่าเป็นจริง และเป็นสาเหตุให้ไม่ สามารถนำรถเข้าวิ่งในเส้นทางได้ให้ผ่อนผันให้ไม่เกิน 30 วัน โดยเจ้าของรถร่วมรายนั้นต้องเสียค่าปรับให้บริษัทวันละ 1,000.- บาทต่อคัน การผ่อนผันเกินระยะเวลา 30 วัน ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการและเจ้าของรถร่วมจะต้องเสียค่าปรับเพิ่ม หลังจากระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันแรกอีกวันละ เท่ากับค่าธรรมเนียมปล่อยรถ (ค่าขา) ของรถในเส้นทางสายที่เจ้าของรถร่วมได้รับสิทธิใน การเดินรถแต่ต้องไม่ต่ำกว่าวันละ 200.-บาท ต่อคัน

     ข้อ 9. เมื่อบริษัท ได้ทำสัญญารถร่วมกับเจ้าของรถร่วมรายใด เจ้าของรถร่วมจะต้องพ่นสีรถ เครื่องหมายประกอบการ หมายเลขรถ ตลอดจนติดตั้งเก้าอี้นั่งผู้โดยสารให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของบริษัทและให้บริษัทดำเนินการเพื่อบรรจุรถคัน ที่ทำสัญญารถร่วมเข้าบัญชี ขส.บ.11 เมื่อได้รับอนุมัติจากทางราชการให้บรรจุรถเข้าบัญชี ขส.บ.11 ได้แล้ว เจ้าของรถร่วมจะ ต้องดำเนินการจดทะเบียนรถและนำหลักฐานการจดทะเบียนมาขอนำรถเข้าเดินในเส้นทาง ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ บริษัทกำหนด

     ข้อ 10. เจ้าของรถร่วมรายใด ขอผ่อนผันการนำรถเข้าวิ่งในเส้นทางเกินระยะเวลา 30 วัน ให้บริษัท มีหนังสือขอขยายระยะเวลา ไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อขออนุญาตขยายระยะเวลาการบรรจุรถเข้าบัญชี ขส.บ.11 การขอขยายระยะเวลาดังกล่าวเมื่อรวมกันแล้วจะต้องไม่เกินกว่า 90 วัน

     ข้อ 11. เจ้าของรถร่วมรายใด ไม่สามารถดำเนินการตามความในข้อ 9 ได้ให้ประกาศเพิกถอนสัญญารถร่วม และริบเงินประกันสัญญา และค่าบำรุงที่ชำระไว้ทั้งสิ้น

     ข้อ 12. การเปลี่ยนรถให้ผู้ได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนรถนำรถคันใหม่เข้าทำสัญญาและเข้าวิ่งในเส้นทางให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลา 150 วัน นับจากวันที่นายทะเบียนกลางอนุมัติให้เปลี่ยนรถได้ การนำรถเข้าวิ่งในเส้นทางและการขยายระยะเวลา ให้ดำเนินการตามข้อ 8 และ ข้อ 9 เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้อง

     ข้อ 13. การทำสัญญารถร่วม เจ้าของรถร่วมต้องปฏิบัติดังนี้
          (1) แสดงหลักฐานว่า เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิการครอบครอง หรือสิทธิในการใช้รถคันที่จะทำสัญญารถร่วม
          (2) ต้องยินยอมโอนทะเบียนถให้กับบริษัทเพื่อจดทะเบียนเป็นรถโดยสารประจำทาง
          (3) วางเงินประกันสัญญารถร่วม เพื่อชดใช้ความเสียหายอันเกิดจากการปฏิบัติที่ผิดระเบียบนี้ตามอัตราในบัญชีแนบท้าย
          (4) ต้องจัดหาหลักประกันเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุรถโดยสารดังต่อไปนี้
               4.1 นำรถไปประกันภัย โดยคุ้มครองผู้โดยสารในรถผู้ขับขี่ พนักงานประจำรถ และบุคคลภายนอกทั้งความเสียหายต่อชีวิต
ร่างกาย อนามัย และทรัพย์สิน ซึ่งสัญญาและกรมธรรม์ประกันภัยต้องกำหนดความรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหายในอัตราการชดใช้ตาม ที่บริษัทกำหนดและ
               4.2 จัดหาบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของรถร่วมเส้นทางหมวดเดียวกันจำนวน 1 ราย มาค้ำประกันกับบริษัท ยกเว้นเจ้าของรถร่วมรายนั้น มีรถร่วมกับบริษัทตั้งแต่ 4 คันขึ้นไป ให้เอารถร่วมคันอื่นของตนมาค้ำประกันไดั

     ข้อ 14. ในระหว่างอายุสัญญารถร่วมเจ้าของรถร่วมต้อง
          (1) ไม่ขาดต่อทะเบียนรถคันที่ทำสัญญารถร่วมไว้
          (2) ต้องไม่ขาดต่ออายุสัญญาประกันภัยตามที่บริษัทกำหนด
          (3) ต้องมีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครองหรือสิทธิในการใช้รถของรถคันที่ทำสัญญารถร่วมไว้ หากปรากฏว่า ในระหว่างอายุสัญญารถร่วม ได้ขาดต่อทะเบียนรถก็ดี ขาดต่ออายุสัญญาประกันภัยก็ดี หลักทรัพย์ที่วางประกันไว้มีจำนวนลดน้อยถอยลงก็ดี หรือบุคคลผู้ค้ำประกันไม่ได้เป็นเจ้าของรถร่วมก็ดี ให้พักรถคันนั้น ๆ ไว้ก่อนจนกว่าจะได้ปฏิบัติครบถ้วนตามเงื่อนไข ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 60 วัน หากพ้นกำหนดให้ประกาศเพิกถอนสัญญารถร่วม หากปรากฏว่าในระหว่างอายุสัญญารถร่วม เจ้าของรถร่วมขาดคุณสมบัติในข้อ 14 (3) เจ้าของรถร่วมต้องแจ้งให้บริษัททราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ขาดคุณสมบัติและ ต้องจัดหารถมาเปลี่ยนแทนภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ขาดคุณสมบัติการเปลี่ยนรถตามความในวรรคนี้ให้จัดเก็บค่าธรรมเนียมเปลี่ยน ีรถตามอัตราในบัญชีแนบท้าย หากพ้นกำหนดนี้ให้ประกาศเพิกถอนสัญญารถร่วม

     ข้อ 15. เจ้าของรถร่วมรายใด เปลี่ยนแปลงภูมิลำเนาก็ดี ชื่อ นามสกุลก็ดี ต้องแจ้งให้บริษัททราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้มีการเปลี่ยนแปลง

     ข้อ 16. เจ้าของรถร่วมรายใด ประสงค์จะต่ออายุสัญญารถร่วม ต้องแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือตามแบบที่บริษัทกำหนดให้บริษัททราบภายใน 60 วัน ก่อนถึงวันสิ้นสุดอายุสัญญารถร่วม เจ้าของรถร่วมรายใด แจ้งความประสงค์ขอต่ออายุสัญญารถร่วมหลังวันสิ้นอายุสัญญารถร่วมไปแล้ว ให้ปรับวันละ 100 บาท ตามจำนวนวันที่ล่วงเลยระยะเวลา

     ข้อ 17. ก่อนถึงวันสิ้นอายุสัญญารถร่วมไม่น้อยกว่า 30 วัน บริษัทต้องมีหนังสือประกาศเตือนให้เจ้าของรถร่วมทราบว่า สัญญารถร่วมจะสิ้นอายุลงแล้ว ตลอดจนแจ้งระเบียบการต่ออายุสัญญารถร่วมให้ทราบด้วย

     ข้อ 18. การอนุญาตให้เจ้าของรถร่วมรายใดต่ออายุสัญญารถร่วมได้ ต้องประกอบด้วยเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
          (1) ไม่ขาดต่อทะเบียนรถคันที่ทำสัญญารถร่วมไว้
          (2) ต้องไม่ขาดต่ออายุสัญญาประกันภัย ตามที่บริษัทกำหนด
          (3) ต้องมีกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครองหรือสิทธิในการใช้รถของรถคันที่ทำสัญญารถร่วมไว้
          (4) ไม่ปรากฏรายงานการมีหนี้สิน หรือมีแต่ได้ชำระตามที่กำหนดแล้ว
          (5) มีเงินประกันสัญญาครบถ้วนตามระเบียบ
          (6) เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญารถร่วมด้วยดีเสมอมา

     ข้อ 19. ให้นำหลักเกณฑ์การทำสัญญารถร่วมข้อ 13, 14 มาใช้บังคับในการต่ออายุสัญญารถร่วมโดยอนุโลม

     ข้อ 20. เจ้าของรถร่วม ประสงค์จะเลิกสัญญารถร่วมต้องแจ้งเป็นหนังสือให้บริษัททราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 90 วัน ก่อนถึงวันที่ประสงค์จะเลิกสัญญารถร่วม หากผิดนัดข้อนี้ให้ริบเงินประกันสัญญา

     ข้อ 21. การเลิกสัญญารถร่วม หรือเพิกถอนสัญญารถร่วมให้จัดทำเป็นประกาศและให้ดำเนินการถอนรถออกจากบัญชี ขส.บ.11 ตลอดจนโอนทะเบียนคืนให้แก่เข้าของรถร่วม การเพิกถอนสัญญารถร่วม เนื่องจากเจ้าของรถร่วมปฏิบัติฝ่าฝืนระเบียบนี้ให้ริบเงินประกันสัญญาเสียทั้งสิ้น ให้ทำการตรวจสอบหนี้สิน หากมีหนี้สินค้างชำระให้หักเงินประกันสัญญาชดใช้ หากไม่พอชดใช้ ให้หักจากหลักทรัพย์ที่วางประกันไว้ หรือจากบุคคลผู้ค้ำประกันเจ้าของรถร่วม ต้องทำการลบเครื่องหมายประกอบการ หมายเลขรถทันทีที่ประกาศเพิกถอนสัญญารถร่วมหรือเลิกสัญญารถร่วม เมื่อได้ลบเครื่องหมายประกอบการหมายเลขรถแล้ว จึงคืนเงินประกันสัญญาให้แก่เจ้าของรถร่วม