“สุรพงษ์” ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม “สถานีขนส่งฯ หมอชิต2” รองรับการเดินทางของประชาชนก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้
26-03-2567
“สุรพงษ์” ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม “สถานีขนส่งฯ หมอชิต2” รองรับการเดินทางของประชาชนก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ 2567 นี้
วันนี้ (26 มีนาคม 67) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อม เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยมีนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในทุกมิติ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้านและเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่จะถึงนี้อย่างมีความสุข ตามนโยบาย “คมนาคม เพื่อความอุดมสุขของประชาชน” ตนจึงได้ลงพื้นที่ ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงคมนาคม เพื่อตรวจความคืบหน้าของการพัฒนาสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 โดยพบว่า หลังจากเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา บขส. ได้พัฒนาและปรับปรุงพื้นที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ให้สามารถเชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น การจัดจุดให้บริการรถโดยสารสาธารณะ (ขสมก.) จุดให้บริการรถแท็กซี่ และจัดการเดินรถเชื่อมต่อกับระบบรางที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นอกจากนี้ได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในสถานีฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการให้บริการประชาชน โดย บขส. ได้ปิดพื้นที่ชานชาลาขาเข้า (เดิม) และให้รถโดยสารทุกคัน ใช้พื้นที่ขาออก จอดส่งผู้โดยสาร บริเวณชานชาลาที่ 1 ช่องจอดที่ 112 – 130 และได้ปรับปรุงชานชาลา เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในพื้นที่สถานีฯ เช่น รื้อบันไดเลื่อน จำนวน 5 ตัว ที่มีสภาพเก่าและมีอายุการใช้งานมานานออก เพิ่มเก้าอี้พักคอย ปรับปรุงไฟส่องสว่าง ป้ายบอกทาง ติดตั้งพัดลม เพิ่มกล้องวงจรปิด ให้พร้อมบริการประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ มีวันหยุดติดต่อกัน 5 วัน คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากเทศกาลสงกรานต์ 2566 ประมาณ 10% โดยในระหว่างวันที่ 9 - 11 เมษายน 2567 คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเฉลี่ยวันละ 70,000 คน ใช้รถโดยสาร
(รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,200 เที่ยว ส่วนในระหว่างวันที่ 15 – 17 เมษายน 2567 คาดว่าประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เฉลี่ยวันละ 66,000 คน ใช้รถโดยสาร เฉลี่ยวันละ 4,000 เที่ยว และได้จัดรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถ 30) มาวิ่งเสริมในเส้นทางต่างๆ อีกประมาณ 900 คัน ทั้งนี้ประชาชนสามารถจองตั๋วโดยสารของ บขส. ได้ล่วงหน้า 365 วัน ผ่าน Application : E-ticket และ Website บขส. : https://tcl99web.transport.co.th และช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ นอกจากนี้เพื่อสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการลดความหนาแน่นในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และบขส. ได้จัดโครงการ “ไปก่อน-กลับทีหลัง” มอบส่วนลดค่าโดยสาร 20% (ไม่รวมค่าธรรมเนียม) ให้กับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางออนไลน์ Application : E-Ticket, Website : https://tcl99web.transport.co.th เดินทางระหว่างวันที่ 2 - 4 และ 22 - 24 เมษายน 2567 ทุกเส้นทางภายในประเทศ และสมาชิก บขส.Card เมื่อซื้อตั๋วโดยสารผ่านช่องทางออนไลน์ เดินทางในเดือนเมษายนนี้ จะได้รับคะแนนสะสมคูณ 2 เพิ่มทันที
อย่างไรก็ดีเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน ได้มอบหมายให้ บขส. บูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), กรมการขนส่งทางบก, กองบังคับการตำรวจจราจร สน.บางซื่อ สน.ตลิ่งชัน และ สน.ทองหล่อ ในการอำนวยความสะดวกประชาชนสนับสนุนพื้นที่ จัดรถเมล์ ขสมก. รถแท็กซี่ และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยและการจราจรโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 5 แห่ง
นอกจากนี้ได้กำชับให้เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 6 ชั่วโมง และพนักงานขับรถต้องได้รับการตรวจสภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ปลอดแอลกอฮอล์และสารเสพติด รวมทั้งมีตรวจสมุดประจำรถ และตั้งด่านตรวจ และจุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ (Checking Point) ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยในระหว่างการเดินทางด้วย สอบถามข้อมูล และแจ้งปัญหาการเดินทาง ได้ที่จุดรับเรื่องร้องเรียน บริเวณประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 และชั้น 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ บขส. Call Center 1490